·
ตัวเค้ก
§ ไข่ไก่ 4 ฟอง ใช้ไข่ไก่ขนาดกลาง หรือจะใช้ไข่ไก่ขนาดใหญ่ก็ได้ไม่มีปัญหา
แยกเป็นไข่ขาว 1 ฟอง ไข่ขาว 3 ฟอง
และไข่แดง 3 ฟอง จะเหลือไข่แดง 1 ฟอง
ไม่ใช้
§ น้ำตาลทรายป่นละเอียด 65 กรัม จะใช้แบบละเอียดหรือหยาบก็ได้
แต่ในที่นี้ใช้น้ำตาลทรายป่นละเอียด
§ น้ำเปล่า 60 มิลลิลิตร
§ น้ำมันสลัด 40 มิลลิลิตร
§ กลิ่นวานิลลา เล็กน้อย
§ แป้งเค้ก (สำหรับเนื้อเค้ก) 80 กรัม
§ แป้งเค้ก (สำหรับวาด) 1 ช้อนชา (แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนละ ½ ช้อนชา)
§ แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
§ สีผสมอาหาร (สีแดง) 1/8 ช้อนชา
เติมน้ำประมาณ ¼ ช้อนชา ผสมเล็กน้อย
หากใช้สีผสมอาหารที่ได้จากวัตถุดิบธรรมชาติ น้ำหนักสีจะนุ่มนวลกว่า
·
น้ำเชื่อม
§ น้ำตาล 10 กรัม
§ น้ำร้อน 20 มิลลิลิตร
§ ไวน์ส้ม ½
ช้อนโต๊ะ ถ้าหากไม่มีไวน์ส้ม ไม่ต้องไส่ก็ได้
·
ครีม
§ วิปปิ้งครีม 150 มิลลิลิตร
§ น้ำตาลทราบป่นละเอียด 14 กรัม
§ กีวี กล้วยหอม อย่างละ ¼ ลูก
§ ลูกพีชเหลือง 1
ชิ้น แนะนำให้ใช้วิปปิ้งครีมที่มีส่วนประกอบของไขมันประมาณ 40-47%
เพราะจะตีให้ขึ้นฟูได้ง่าย
หลังจากปูกระดาษรองอบบนถาดรองอบเรียบร้อยแล้ว
ให้ใช้ผ้าชุบน้ำมันสลัดทาเคลือบ บาง ๆ หนึ่งชั้น
§ ตัดมุมทั้ง 4 ของกระดาษรองอบออกไปเพื่อให้แนบพอดีกับถาดอบ
§ หากทาน้ำมันสลัดไว้ก่อน
จะทำให้ส่วนที่เป็นรูปภาพไม่ติดกับกระดาษสามารถลอกได้ง่าย
เตรียมช้อนชาไว้ 2 ช้อน
§ ช้อนที่มีปลายค่อนข้างแหลมเหมาะแก่การวาดภาพมากเปิดเตาอบไว้ล่วงหน้าที่อุณหภูมิ
170 องศาเซลเซียส
ผสมแป้งจากไข่แดง
1.
ตีไข่แดง 3 ฟอง ลงในชามผสม
ใส่น้ำตาลทรายป่นลงไปประมาณครึ่งหนึ่ง (35 กรัม)
ใช้เครื่องตีไฟฟ้าจนขึ้นฟู จากนั้นเติมน้ำเปล่า น้ำมันสลัด และกลิ่นวนิลลา คนผสมให้เข้ากัน
ใส่น้ำเปล่า น้ำมันสลัด และ กลิ่นวานิลลาลงไปในส่วนผสม
2.
ร่อนแป้งเค้กใส่ลงไป
เปิดเครื่องตีไฟฟ้าระดับสูงสุด
ตีผสมจนกระทั่งแป้งเริ่มเข้ากันมีลักษณะข้นหากในขั้นตอนนี้เราตีส่วนผสมเต็มที่
แป้งจะขึ้นรูปดี ตัวเค้กที่ออกมาก็จะมีเนื้อนุ่มและยืดหยุ่น เวลาม้วนไม่แตกง่าย
สังเกตดูว่าเมื่อยกตะกร้อขึ้นแป้งจะย้อนตามเป็นเส้น เกิดริ้วบนผิวแป้ง
3.
เตรียมชามเล็ก 2 ใบ
แบ่งแป้งจากไข่แดงที่ผสมเรียบร้อยแล้ว 2 ช้อนชา
ลงในชามแต่ละใบ แล้วร่อนแป้งเค้ก ½ ช้อนชา
ใส่ลงไปจากนั้นก็ผสมให้เข้ากัน การเติมแป้งเค้กลงไปเพื่อให้ส่วนผสมเกาะตัว
ง่ายต่อการวาด
4.
นำสีผสมอาหารสีชมพูไปละลาย
แล้วหยดใส่ชามแป้ง 1 ใบ ในขั้นตอนที่ 3
เล็กน้อย ใช้สำหรับวาดสีชมพูอ่อน ส่วนชามอีก 1 ใบ ให้ใส่สีผสมอาหารมากหน่อยใช้สำหรับวาดสีชมพูเข้ม ภาพเปรียบเทียบความเข้ม-อ่อนของสีชมพู เนื่องจากสีผสมอาหารติดสีง่าย ละลายลงไปแค่นิดเดียวก็พอแล้ว
5.
ใช้เครื่องตีไฟฟ้าตีไข่ขาว
1 ฟอง ในชามผสมอีก 1 ใบ จนเป็นเงามันวาว และตั้งยอด จากนั้นโรงแป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา ๆ ลงไป แล้วตีให้เป็นเนื้อครีม ฟองครีมที่เกิดจากการตีไข่ขาวเรียกว่า
ครีมไข่ขาว การใส่แป้งข้าวโพดลงไปทำให้ฟองครีมไม่แตกตัวง่าย คนผสม
6.
แบ่งครีมไข่ขาวออกเป็น
3 ส่วน นำ 2 ส่วนแบ่งไปใส่ในชาม
2 ใบ ของขั้นตอนที่ 4 จากนั้นคนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
คนผสมจนกระทั่งไม่เหลือส่วนที่เป็นไข่ขาว และส่วนผสมเกิดความมันวาว
7.
ใช่ช้อนชาตักส่วนผสมสีชมพูเข้มหยดลงบนกระดาษ
ให้เป็นรูปวงกลมขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร หยดเรียงกัน 2 หยด
จากนั้นใช้ปลายช้อนปาดด้านล่างวงกลมทำเป็นรูปหัวใจ ตั้งปลายช้อนให้ตรง
หยดส่วนผสมลงไปเบา ๆ หากวาดด้านที่ใกล้ตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก็หมุนถาดรองอบแล้ววาดรูปในทิศทางตรงกันข้าม
8.
นำส่วนผสมสีชมพูอ่อนวาดรูปหัวใจด้วยวิธีการเดียวกัน
จากนั้นนำไปใส่ในตู้อบที่เปิดอุณหภูมิไว้ที่ 170 องศาเซลเซียส เวลา 1 นาที
เมื่อวาดเสร็จควรนำเข้าเตาอบทันที เพื่อไม่ให้ฟองครีมแตกตัว
หากผิวด้านหน้าแห้งตามภาพก็ถือว่าถูกต้อง แต่หากยังไม่แห้งทั้งหมด
ให้อบเพิ่มครั้งละ 30 นาที
คอยสังเกตดูจนกว่าผิวหน้าของแป้งจะแห้งสนิท รูปภาพที่อบมาก่อนหากแห้งไม่พอ
เวลาเทส่วนผสมทับลงไปบนภาพอาจทำให้ภาพเสียรูปได้ตีไข่ขาวสำหรับทำตัวเค้กให้ฟู
(ครีมไข่ขาว)
ตีไข่ขาวสำหรับทำตัวเค้กให้ฟู(ครีมไข่ขาว)
9.
ตีไข่ขาว 3 ฟอง
ในชามผสมจนไข่ขาวขึ้นฟูและข้น ใส่น้ำตาลทรายป่นละเอียดที่เหลือจากขั้นตอนที่ 1
ลงไป (ประมาณ 30 กรัม)
คนให้เข้ากันจนเริ่มมันเงา จากนั้นใส่แป้งข้าวโพดที่เหลือแล้วตีจนตั้งยอด
ตีครีมไข่ขาวจนกระทั่งมีลักษณะขึ้นฟูตั้งยอดอ่อน
เมื่อคว่ำอ่างผสมแล้วส่วนผสมไม่ไหลลงมาในทันทีก็ถือว่าใช้ได้
ผสมแป้งจากไข่แดงกับไข่ขาว
(ครีมไข่ขาว) เข้าด้วยกัน
10.
นำครีมไข่ขาวที่เหลือจากการใช้วาดรูปใส่เข้าไปในส่วนผสมขั้นตอนที่
9 แล้วนำครีมไข่ขาวทั้งหมดใส่ลงไปในแป้งไข่แดงของขั้นตอนที่
1 โดยแบ่งใส่ 3 ครั้ง
เปิดเครื่องตีไฟฟ้าระดับแรงสุด ตีจนกระทั่งไม่มีส่วนของครีมไข่ขาวเหลืออยู่
และเนื้อแป้งเป็นมันวาวที่เห็นเป็นเม็ด ๆ ฟอง ๆ ก็คือส่วนที่เป็นไข่ขาว
ต้องกดให้แตก เมื่อใช้พายยางเทแป้งจะไหลเป็นเส้น เกิดริ้วที่ผิวแป้งก็ถือว่าใช้ได้
เทส่วนผสมลงไปในถาดอบ
11.
เทส่วนผสมลงไปในถาดอบที่อบลวดลายเรียบร้อยแล้ว
เกลี่ยผิวแป้งให้เรียบเสมอกันเคาะถาดอบสัก 2-3 ครั้ง เพื่อไล่อากาศออก
ใช้มือเคาะที่ก้นถาดอบก็ได้เช่นกัน
เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเค้กที่อบเสร็จแล้วมีโพรงอากาศ
อบเค้ก
12.
นำเข้าอบด้วยอุณหภูมิ
170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 14
นาที ใช้ไม้จิ้มฟันเสียบลงไปในเนื้อเค้กดู
ถ้าไม่มีแป้งติดออกมาถือว่าเสร็จเรียบร้อย เมื่อนำเค้กออกมาจากตู้อบ
เค้กจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนดังในภาพ
พลิกหน้าเค้กขึ้น พักไว้ให้เย็น
13.
คลุมกระดาษรองอบด้านบนตัวเค้กที่อบเสร็จ
คว่ำถาดอบลงบนตะแกรง แล้วนำถาดอบออก ถ้าไม่มีตะแกรงพักเค้กให้วางบนตะแกรงธรรมดา
(ดังในภาพ) ก็ได้ตะแกรงพักคุณภาพดีจะทำให้คลายความร้อนด้านล่างได้เร็วขึ้น
14.
ดึงกระดาษรองอบบนผิวเค้กออกทันที
แล้ววางกระดาษรองอบคลุมกลับลงไปอีกครั้ง รอให้เค้กเย็นตัวลง ถึงช่วงเวลาได้ยลโฉมรูปภาพกันแล้ว!
ถ้าหากไม่คลุมกระดาษรองอบกลับลงไปใหม่ทันทีล่ะก็ผิวหน้าของเค้กจะแห้งได้
ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เค้กมีรอยแตกเวลาม้วน วางพักไว้ประมาณ 15 นาที
จนกระทั่งเค้กไม่มีความร้อนเหลืออยู่
15.
ใส่วิปปิ้งครีมกับน้ำตาลทรายป่นละเอียดลงไปในชามผสมแล้วตีให้เข้ากันจนฟู
(ตั้งยอดแข็ง) วิปปิ้งครีมที่มีส่วนประกอบของไขมันในนมไม่เท่ากัน ก็ขึ้นฟูได้ยาก-ง่าย ต่างกันด้วย
ให้ตีจนกระทั่งเนื้อครีมเกาะตัวตั้งยอดแข็ง หากใช้เวลาตีนานเกินไปอาจทำให้ไขมันแตกตัว
ต้องระวังให้ดี
ทำน้ำเชื่อม
16.
ละลายน้ำตาลทรายกับน้ำร้อน
รอให้เย็น แล้วใส่ไวน์ส้มเข้าไปผสม สามารถใช้น้ำตาลทรายป่นละเอียดแทนได้
แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ใช้น้ำตาลทรายจะได้น้ำเชื่อมที่ชุ่มคอมากกว่า
17.
เอากระดาษรองอบที่คลุมอยู่เดิมออก
เปลี่ยนแผ่นใหม่ พลิกเค้กให้ด้านที่เป็นรูปอยู่ด้านล่าง
แล้วลอกกระดาษรองอบด้านหลังออก จากนั้นตัดขอบเค้กด้านที่อยู่ใกล้ตัวออก
การตัดขอบเค้กออกทำให้จุดเริ่มต้นกับจุดสุดท้ายม้วนออกมาได้อย่างสวยงาม
18.
ใช้มีดบากเป็นรอยบาง
ๆ บนเนื้อเค้กให้ห่างกันประมาณ 2 เซนติเมตร จากนั้นใช้แปรงทาน้ำเชื่อมลงบนเค้กให้ทั่ว การทำรอยบากบาง ๆ
บนผิวเค้ก จะทำให้ผิวเค้กม้วนไม่แตกง่าย ออกมาสวยงาม
น้ำเชื่อมแค่ทาให้ทั่วเค้กก็พอ ไม่ต้องใช้หมดก็ได้
ทาครีม
19.
ปาดครีมสดลงบนเนื้อเค้ก
เหลือขอบด้านหน้าไว้ ประมาณ 3 เซนติเมตร จากนั้นจัดผลไม้เรียงลงไป วางผลไม้เป็นแถวห่างกันดังภาพ
เวลาม้วนเสร็จแล้วตัดออกมา หน้าตัดจะดูสวยงาม
ม้วนเค้ก
20.
ยกกระดาษรองอบกับตัวเค้กด้านใกล้ตัวขึ้นมาพร้อมกัน
ดึงตัวเค้กไปด้านหน้า ห่อผลไม้ไว้ เมื่อกดแน่นดีแล้วค่อย ๆ
ม้วนส่วนที่เหลือไปข้างหน้าจนหมด ม้วนให้แน่น
ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับหัวกระดาษด้านหนึ่งยกขึ้นแล้วม้วนให้แน่น
เมื่อจับแน่นดีแล้วค่อยดึงกระดาษที่ม้วนเข้าไปออกมา แล้วม้วนเค้กที่เหลือต่อไป
21.
บิดปลายกระดาษทั้งสองด้านให้แน่นแล้วนำใส่ตู้เย็น
ประมาณ 1 ชั่วโมง ขึ้นไป ก็เป็นอันเสร็จ
การทำเช่นนี้จะทำให้ตัวเค้กกับครีมสดติดแน่นเข้ากันดี เค้กดูน่ากินยิ่งขึ้น
บิดปลายกระดาษให้เหมือนลูกกวาด แบบนี้ แช่เย็นไว้ 1 คืน
เพื่อรสชาติที่ดียิ่งขึ้น
เสร็จเรียบร้อย
22.
ใช้มีดลวกน้ำร้อนตัดปลายเค้กโรลทั้งสองด้านให้เรียบร้อยหลังจากลวกมีดด้วยน้ำร้อน
จะทำให้ตัดออกมาได้อย่างสวยงาม แม้แต่ส่วนที่เป็นครีมสด
ให้เป็นของขวัญ
ห่อด้วยกระดาษบางใส เป็น บรรจุภัณฑ์ เบเกอรี่ แบบง่ายง่ายให้มองเห็นลาย
ยิ่งเพิ่มความน่ารัก ผูกโบว์ที่มีสีเข้ากันกับลายโรลเข้าไปหน่อยก็เรียบร้อย
ใส่เทคนิคการตกแต่งเพิ่มเข้าไป
ก็ทำให้เค้กโรลดูหรูหราขึ้นเยอะ
บีบครีมสดตกแต่งบนเค้กโรล
ไม่ก็วางผลไม้หรือช็อกโกเลตเข้าไปก็ทำให้เค้กดูดียิ่งขึ้น